มาดูกิจกรรมบนรถที่คุณมักมองข้าม แล้วดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าคุณเผลอทำขึ้นมาอาจโดนจับได้ หากคุณตำรวจเอาจริง! เช็กตัวเองด่วนว่าพฤติกรรมไหนบ้างที่คุณเผลอทำ แอบใบ้ให้นิดนึงว่าแค่เล่นโทรศัพท์บนรถก็อาจโดนจับได้!
เล่นโทรศัพท์บนรถ
ใครที่ใช้มือถือขณะขับรถต้องระวัง เพราะอาจโดนจับปรับได้ ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมบนโทรศัพท์ เล่นโซเชียล พิมพ์ตอบแชท หรือคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะการเล่นโทรศัพท์บนรถทำให้คุณต้องวางมือจากพวงมาลัยไปจับโทรศัพท์ โดยต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาทได้ บางทีคุณอาจโดนจับแบบไม่รู้ตัว เพราะตำรวจจะใช้วิธีบันทึกภาพจากกล้อง แล้วส่งเป็นใบสั่งพร้อมรูปหลักฐานมายังบ้านของคุณ หากไม่อยากโดนปรับ เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องคุยโทรศัพท์มือถือ ควรใส่หูฟังหรือเปิดสปีกเกอร์โฟนแล้ววางมือถือไว้ และไม่ควรคุยโทรศัพท์มือถือด้วยการใช้คอเหน็บ เพราะจะทำให้เสียสมาธิในการขับรถได้
ดื่มเหล้าบนรถถึงแม้คนขับจะไม่ได้ดื่มก็ตาม
อีกหนึ่งอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดคือ เรื่องเมาไม่ขับ บางคนอาจเข้าใจว่าคนขับไม่ได้เมาก็จริง แต่มีคนอื่นที่นั่งดื่มเหล้าบนรถได้ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 “ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถ” ไม่ว่ารถคันนั้นจะจอดอยู่นิ่ง ๆ หรือขับไปก็ตาม ผิดเหมือนกัน มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาหนักกว่าเล่นโทรศัพท์บนรถอีก
แต่ถึงอย่างนั้น ความผิดข้อนี้ก็ยังมีข้อยกเว้น หากคุณเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างขนส่ง แล้วดันมีผู้โดยสารที่ขึ้นรถมาด้วยอาการมึนเมา พร้อมกับพกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเปิดกินบนรถคุณด้วย คุณจะไม่มีความเนื่องจากทางกฎหมายได้ละไว้ว่าเป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย ที่คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้โดยสารจะพกเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นมาด้วยหรือไม่
เปิดเพลงเสียงดังบนรถ
ใครที่เป็นสายตื๊ด ชอบเปิดเพลงดัง ๆ เผื่อแผ่ชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล หรือเปิดเป็นประจำทุกวัน ต้องระวังให้ดี เพราะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท เท่ากับการเล่นโทรศัพท์บนรถได้เลย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ทราบว่าการเปิดเครื่องเสียงรถยนต์ดังผิดกฎหมาย เป็นเพราะว่าไม่มีคนแจ้งตำรวจนั่นเอง แต่ถ้าหากรถของคุณโดนเจ้าทุกข์ร้องเรียน ว่าเครื่องเสียงของคุณสร้างความรำคาญให้แก่พวกเขาเมื่อไหร่ ก็เตรียมตัวโดนจับได้เลย เพราะที่ผ่านมาที่คุณไม่โดนตำรวจจับก็เป็นเพราะเจ้าทุกข์เพิกเฉยนั่นเอง
นั่งรถเบาะหลังโดยไม่คาดเข็มขัด
หลายคนอาจเกิดความเคยชิน ว่านั่งเบาะหลังแล้วไม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่กฎหมายใหม่ได้ออกมาแล้ว และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ให้ผู้ที่นั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่เช่นนั้นอาจมีความผิด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ถูกปรับเยอะกว่าเล่นโทรศัพท์บนรถอีกนะเนี่ย เป็นข้อบังคับเฉพาะรถที่นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อยกเว้นเช่นกันสำหรับรถเก่า โดยรถยนต์ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2531 ที่ไม่สามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ หากจดทะเบียนก่อนวันดังกล่าว ไม่ถือมีความผิด
ซึ่งกฎต่าง ๆ นี้ก็มีไว้เพื่อความปลอดภัยผู้ขับขี่ หากคุณทำตามกฎกติกาในการขับรถ ก็จะช่วยให้คุณขับขี่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะไม่เล่นโทรศัพท์บนรถ เพราะทุกครั้งที่คุณละสายตาจากถนน อุบัติเหตุย่อมเกิดได้ทุกเมื่อ อีกหนึ่งความอุ่นใจเมื่อใช้รถใช้ถนน คือการเลือกทำ ประกันดี ๆ ให้แก่รถของคุณ ขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 2+ จาก Rabbit Care ที่ช่วยคุ้มครองไปถึงเงินประกันตัว หากผู้ขับขี่มีความผิดทางอาญา หรือแม้แต่บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี สมัครเลย https://rabbitcare.com/car-insurance/type2-plus